วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

  • เครื่องเป่า
  • ขลุ่ยเพียงออ  เป็นขลุ่ยหลักที่เกิดขึ้นก่อนขลุ่ยชนิดอื่นและใช้มาแต่สมัยโบราณ    มีความยาวประมาณ 45 ซ.ม.       กว้าง 2.5  ซ.ม.  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของไม้ไผ่      ใช้ผสมในวงเครื่องสาย  วงมโหรีและวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์         
  • ขลุ่ยหลีบหรือขลุ่ยหลีก  เป็นขลุ่ยขนาดเล็กที่สุด  เกิดขึ้นในสมัยต้นรัตนโกสินทร์   มีความยาว  ประมาณ  25 ซ.ม. กว้างประมาณ  2  ซ.ม.   มีเสียงสูงกว่าขลุ่ยเพียงออ  3  เสียง     เป็นขลุ่ยชนิดเดียวที่เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องนำ    ใช้ผสมในวงเครื่องสายเครื่องคู่  และวงมโหรีเครื่องใหญ่
  • ขลุ่ยอู้  เป็นขลุ่ยที่มีขนาดใหญ่เกิดขึ้นสมัยต้นรัตนโกสินทร์      มีความยาวประมาณ   60  ซ.ม.    กว้าง 4  ซ.ม.      เสียงต่ำกว่าขลุ่ยเพียงออ  3  เสียง  ใช้ผสมในวงมโหรีเครื่องใหญ่และปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์
  • ขลุ่ยรองออ  เป็นขลุ่ยที่ที่มีขนาดใหญ่กว่าขลุ่ยเพียงออเล็กน้อย  เสียงต่ำกว่าขลุ่ยเพียงออ  1 เสียง ปัจจุบันขลุ่ยเคียงออไม่มีผู้ใช้แล้ว  จึงหาซื้อไม่ได้ในท้องตลาดทั่วไป
  • ขลุ่ยเคียงออ หรือ เป็นขลุ่ยที่มีขนาดเล็กกว่าขลุ่ยเพียงออเล็กน้อย  ยาวประมาณ 40 ซ.ม.  กว้าง 2.2  ซ.ม.     มีระดับเสียงสูงกว่าขลุ่ยเพียงออ  1  เสียง  
  • ขลุ่ยกรวด  เป็นขลุ่ยที่มีขนาดเล็กกว่าขลุ่ยเพียงออเล็กน้อย  ยาวประมาณ 40 ซ.ม.  กว้าง 2.2  ซ.ม. มีระดับเท่ากับเสียงสากล
  • ขลุ่ยออร์แกน  เกิดจากการนำเครื่องดนตรีสากล  คือ  เปียโน  ออร์แกน   มาผสมวงกับเครื่องดนตรีไทย  ซึ่งต้องปรับเสียงเครี่องดนตรีไทยให้สูงขึ้นเกือบ 1 เสียง   ฉะนั้นจึงต้องผลิตขลุ่ยให้มีระดับเสียงดังกล่าวดัวย  และเนื่องจากนิยมผสมด้วยออร์แกนมากกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ จึงเรียกติดปากตามเครื่องดนตรีที่มาผสมว่า ขลุ่ยออร์แกน
  • ขลุ่ยพล  เป็นขลุ่ยที่ไม่สามารถจัดเป็นขลุ่ยชนิดใดได้  มีราคาถูกใช้เป่าเล่นได้แต่ระดับเสียงไม่แน่นอนใช้ผสมวงไม่ได้ 
  •  
  • ขลุ่ยนก  เป็นชุดของขลุ่ยที่ผลิตเพื่อเลียนเสียงนก  ในการบรรเลงเพลง ตับนก และเพลง ตับภุมรินทร์  มี  4  ชนิดคือ 
  • • ขลุ่ยนกกางเขน  ใช้เลียนเสียงนกกางเขน  ไม่มีรูระบายระดับเสียงยาวประมาณ 10 ซ.ม. กว้าง 3 ซ.ม. มีไม้ซางเสียบทะลุด้านข้างกระบอกเสียง  เวลาเป่าต้องใส่น้ำลงในกระบอกให้ปลายหลอดส่วนล่างอยู่ในน้ำจึงจะเกิดเสียง 
  • ขลุ่ยนกโพระดกหรือขลุ่ย โฮกโป๊ก  ใช้เลียนเสียงนกโพระดก  ไม่มีรูระบายระดับเสียง  เป็นกระบอกไม้ยาว  18  ซ.ม.   กว้าง  5  ซ.ม.  เวลาเป่าใช้ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งอุดปลายส่วนล่าง       ห่อมือเล็กน้อยเป่าได้เสียง “โฮก” ในขณะเป่าต่อเนื่องกันนั้น   ถ้าเปิดฝ่ามือที่อุดด้านล่างอย่างรวดเร็ว จะได้เสียง “โป๊ก
  • •ขลุ่ยนกกาเหว่า ใช้เลียนเสียงนกกาเหว่า  มีลักษณะเหมือนขลุ่ยเพียงออทุกประการ   แต่ตัดท่อนล่างทิ้งให้เหลือรูระบายระดับเสียงไว้   3 - 4  รู  เวลาเป่าปิดรูทั้งหมดรวมทั้งรูนิ้วค้ำด้วยจะได้เสียง “กา”  จากนั้นเปิดรูทั้ง 5 พร้อมกันอย่างรวดเร็ว  จะได้เสียง  “เหว่า”
  • •ขลุ่ยไก่  เป็นขลุ่ยที่ใช้เลียนเสียงไก่     ไม่มีรูระบายระดับเสียงยาวประมาณ  13 ซ.ม. กว้าง 3 ซ.ม.  มีกำพวดปี่เสียบทะลุด้านข้างกระบอกเสียง  ความเป็นจริงควรเรียกว่า ปี่ไก่ แต่เนื่องจากอยู่ในชุดของขลุ่ยนกจึงเรียกว่า "ขลุ่ยไก่"
  • ปี่ เป็นเครื่องดนตรีไทยทำด้วยไม้จริงเช่นไม้ชิงชันหรือไม้พยุง กลึงให้เป็นรูปบานหัวบานท้าย ตรงกลางป่อง เจาะภายในให้กลวงตลอดเลา ทางหัวของปี่เป็นช่องรูเล็กส่วนทาง ปลายของปี่ ปากรูใหญ่ใช้ชันหรือวัสดุอย่างอื่นมาหล่อเสริมขึ้นอีกราวข้างละ ครึ่งซม ส่วนหัวเรียก ทวนบน ส่วนท้ายเรียก ทวนล่าง ตอนกลางของปี่ เจาะรูนิ้วสำหรับเปลี่ยนเสียงลงมาจำนวน 6 รู แต่สามารถเป่าได้เสียงตรง 24 เสียง กับเสียงควงหรือเสียงแทนอีก 8 เสียง รวมเป็น 32 เสียง รูตอนบนเจาะเรียงลงมา 4 รู เว้นระยะห่างเล็กน้อย เจาะรูล่างอีก 2 รู ตรงกลางของเลาปี่ กลึงขวั้นเป็นเกลียวคู่ไว้เป็นจำนวน 14 คู่ เพื่อความสวยงามและกันลื่นอีกด้วย ตรงทวนบนนั้นใส่ลิ้นปี่ที่ทำด้วยใบตาลซ้อนกัน 4 ชั้น ตัดให้กลมแล้วนำไปผูกติดกับท่อลมเล็กๆที่ เรียกว่า กำพวด เรียวยาวประมาณ 5 ซม. กำพวดนี้ทำด้วยทองเหลือง เงิน นากหรือโลหะอย่างอื่นวิธีผูกเชือกเพื่อ ให้ใบตาลติดกับกำพวดนั้น ใช้วิธีผูกที่เรียกว่า ผูกตะกรุดเบ็ด ส่วนของกำพวดที่จะต้องสอดเข้าไปเลาปี่นั้นเขาใช้ถักหรือเคียน ด้วยเส้นด้าย สอดเข้าไปในเลาปี่ให้พอมิดที่พันด้ายจะทำให้เกิดความแน่นกระชับยิ่งขึ้น  
  • ปี่นอก มีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 31 ซม. กว้าง 3.5 ซม. เป็นปี่ที่ใช้กันมาแต่เดิม เสียงของปี่นอกจะมีเสียงที่เล็กแหลม
  • ปี่กลาง มีขนาดกลาง ยาวประมาณ 37 ซม. กว้างประมาณ 4 ซม. สำหรับเล่นประกอบการแสดงหนังใหญ่ มีสำเนียงเสียงอยู่ระหว่าง ปี่นอก กับปี่ใน เสียงของปี่กลางจะ ไม่แหลมหรือว่าต่ำเกินไปแต่จะอยู่ในระดับปานกลาง
  • ปี่ใน ขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 41-42 ซม. กว้างประมาณ 4.5 ซม.เป็นปี่ที่พระอภัยมณีใช้สำหรับเป่าให้นางผีเสื้อสมุทร (ในวรรณกรรมของสุนทรภู่) ขาดใจตายนั่นเอง โดยเสียงของปีในจะเป็นเสียงที่ต่ำ และเสียงใหญ่






ข้อมูลจาก http://www.bs.ac.th/musicthai/page4.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น